เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ไม่มีคุณภาพ อันตรายมากกว่าที่คิด

ในยุคที่อากาศร้อนแรงจนแทบละลาย การติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดความร้อน เพิ่มความเป็นส่วนตัว และป้องกันรังสี UV ฟิล์มกรองแสงจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดฟิล์มกรองแสงก็เต็มไปด้วยสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ขายราคาถูกเกินจริง ใช้คำโฆษณาชวนเชื่อ และทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ไม่มีคุณภาพ พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกฟิล์มที่ปลอดภัยและคุ้มค่า เพื่อไม่ให้คุณต้องเสียเงิน เสียสุขภาพ และเสี่ยงอุบัติเหตุจากของที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ส่งผลใหญ่หลวง
ทำไมต้องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ที่ไม่มีคุณภาพ?
การติดฟิล์มรถยนต์ 3m เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้รถนิยมทำทันทีหลังจากรับรถ เพราะฟิล์มกรองแสงมีบทบาทสำคัญในการลดความร้อนจากแสงแดด ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และเสริมภาพลักษณ์ให้กับรถยนต์ แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามไป คือ “เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์” ที่หากเลือกผิด อาจไม่เพียงแค่เสียเงินเปล่า แต่ยังนำมาซึ่ง อันตราย ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของผู้ขับขี่

1. ฟิล์มไม่มีคุณภาพ เสี่ยงต่อความปลอดภัยในการขับขี่
หนึ่งในเรื่องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์คุณภาพต่ำคือ ทัศนวิสัยแย่ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือในสภาพอากาศที่มีฝนตก ฟิล์มที่ไม่มีมาตรฐานมักจะมีความทึบเกินไป หรือมีปัญหาเรื่องการสะท้อนแสง ทำให้ผู้ขับขี่มองทางไม่ชัดเจน อาจมองไม่เห็นรถที่วิ่งสวนมา คนข้ามถนน หรือสิ่งกีดขวาง ส่งผลให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
กรณีตัวอย่าง : มีหลายครั้งที่ผู้ขับขี่ติดฟิล์มเข้มเกินไปจนมองไม่เห็นทางตอนเลี้ยว ทำให้ชนคนหรือรถจักรยานยนต์ที่ขับตัดหน้า ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากทัศนวิสัยชัดเจน

2. ฟิล์มปลอม เสื่อมไว พังเร็ว
ฟิล์มไม่มีคุณภาพมักผลิตจากวัสดุราคาถูก สีซีดง่าย ไม่กันร้อนจริง และอายุการใช้งานสั้น บางรายใช้ได้ไม่ถึงปี ฟิล์มก็เริ่มพอง ลอก หรือเป็นฝ้า ต้องเสียเงินเปลี่ยนใหม่ ซ้ำร้ายอาจทำลายผิวกระจกด้วย หากต้องเปลี่ยนกระจกหรือซ่อมแซมอาจเสียค่าใช้จ่ายหลายพันถึงหลักหมื่นบาท
3. ฟิล์มไม่มีคุณสมบัติการกรอง UV หรือ IR ที่แท้จริง
เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ที่ไม่มีมาตรฐานส่วนมากจะกันเฉพาะแสงสว่างเท่านั้น แต่ไม่สามารถกันรังสี UV หรืออินฟราเรด (IR) ซึ่งเป็นต้นเหตุของความร้อนสะสมในรถและปัญหาผิวหนัง เช่น ฝ้า กระ หรือมะเร็งผิวหนังในระยะยาว ผลกระทบ ได้แก่ เบาะและแผงหน้ารถซีดจางเร็วกว่าปกติ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถเสื่อมสภาพไว และผิวหนังผู้โดยสารโดยเฉพาะเด็กหรือผู้สูงอายุได้รับผลกระทบโดยตรงจากรังสี UV

4. อาจผิดกฎหมาย และถูกปรับ
กฎหมายจราจรไทยมีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับค่าความเข้มของฟิล์ม คือ กระจกบานหน้า ต้องมีค่าการส่องผ่านของแสงไม่น้อยกว่า 70% กระจกหน้าข้าง ซ้าย-ขวา ไม่น้อยกว่า 50% ด้านหลัง ไม่มีข้อกำหนดเรื่องความเข้ม หากติดฟิล์มที่เข้มเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าของรถอาจถูกเรียกตรวจและถูกปรับได้ โดยเฉพาะช่วงที่มีการตั้งด่านกวดขันเข้มงวด และอาจกระทบต่อการต่อทะเบียนหรือประกันภัย
5. ส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถ
เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ต่อมาคือเรื่องฟิล์มราคาถูกที่มีส่วนผสมของโลหะอาจรบกวนสัญญาณอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ เช่น สัญญาณ GPS นำทาง Easy Pass สัญญาณโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต และกล้องติดรถยนต์ เพราะภาพมักจะมืดหรือมีแสงสะท้อนจนภาพใช้ไม่ได้ เป็นต้น

6. ฟิล์มปลอมในราคาฟิล์มแท้
อีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์คือ การถูกหลอกลวงจากร้านติดฟิล์มไม่มีจรรยาบรรณ ที่นำฟิล์มปลอม ฟิล์มไม่มีแบรนด์ หรือของลอกเลียนแบบ มาติดให้ในราคาสูง โดยอ้างว่าเป็นแบรนด์ดัง บางร้านติดฟิล์มรถยนต์ต้นทุนหลักร้อยแต่คิดค่าบริการเป็นหลักพันถึงหมื่นบาท
วิธีตรวจสอบเบื้องต้นตามเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ คือ ให้ขอรหัสฟิล์มและตรวจสอบกับเว็บไซต์ของแบรนด์แท้ ขอสติกเกอร์รับประกันจากศูนย์จริง และเลือกร้านที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
7. เสียสิทธิประโยชน์จากประกันภัย
หลายบริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธความรับผิดชอบ หากพบว่าอุบัติเหตุเกิดจากการมองไม่เห็นเนื่องจากฟิล์มบดบังทัศนวิสัย หรือหากรถติดฟิล์มเข้มผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นการ “ดัดแปลงรถยนต์” โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ดังนั้นคุณต้องทำความเข้าใจเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์อย่างดีที่สุด
8. ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
แม้บางครั้งฟิล์มไม่มีคุณภาพจะมีราคาถูกจนล่อตาล่อใจ แต่เมื่อพิจารณาเรื่องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ในระยะยาว ทั้งด้านความทนทาน ความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมแล้ว ถือว่าไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายคุณอาจต้องเสียเงินติดใหม่ เสียเวลา เสียความรู้สึก และที่ร้ายที่สุดคือเสี่ยงชีวิต
วิธีสังเกตฟิล์มรถยนต์ไม่มีคุณภาพ
ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ฟิล์มกรองแสงรถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับรถทุกคัน เพราะช่วยป้องกันความร้อน เพิ่มความเป็นส่วนตัว และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ แต่ในขณะเดียวกัน “ฟิล์มไม่มีคุณภาพ” ก็เป็นภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่ในท้องตลาดจำนวนมาก ซึ่งหากไม่ทราบเรื่องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ เมื่อติดไปแล้วไม่เพียงแต่เสียเงินฟรี ยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและปัญหาต่าง ๆ ตามมา ต่อไปนี้เราจะพาคุณรู้ทันกลโกงของฟิล์มปลอม พร้อมแนะนำ วิธีสังเกตฟิล์มไม่มีคุณภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิต
1. ไม่มีข้อมูลยี่ห้อหรือรุ่นที่ชัดเจน
ฟิล์มที่ดีจะมี ชื่อแบรนด์ รุ่น และข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน ทั้งในเอกสารรับประกัน กล่องฟิล์ม หรือสติกเกอร์หลังติดตั้ง หากร้านบอกชื่อยี่ห้อไม่ชัด หรือไม่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้ดูเลย ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นฟิล์มปลอม

2. ไม่มีใบรับประกัน หรือรับประกันด้วยวาจา
ฟิล์มแท้จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น 3M, Lamina, V-Kool, Hi-Kool ฯลฯ จะมี ใบรับประกันพร้อมรหัสฟิล์ม และช่องทางให้ตรวจสอบได้ หากทางร้านบอกว่ารับประกัน “ด้วยวาจา” อาจแปลว่าไม่มีการรับประกันจริง
3. ราคาถูกเกินจริง
ฟิล์มเซรามิกคุณภาพสูง ราคามักอยู่ในช่วง 8,000–20,000 บาท หากเจอร้านโฆษณาว่าเป็นฟิล์มเกรดพรีเมียมแต่ติดให้ในราคาเพียง 2,000–3,000 บาท ต้องระวังให้ดี เพราะอาจเป็นฟิล์มเลียนแบบที่กันร้อนไม่ได้จริง
4. ไม่มีสติ๊กเกอร์หรือโลโก้แบรนด์หลังติดตั้ง
ฟิล์มแท้มักจะมีสติ๊กเกอร์เล็ก ๆ ของแบรนด์ติดไว้บนกระจก หลังติดตั้ง หากไม่มีอะไรเลย หรือมีเพียงสติ๊กเกอร์แปลก ๆ ที่ไม่คุ้นชื่อ อาจเป็นฟิล์มเถื่อน
5. สีและความใสผิดปกติ
เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ข้อห้า ฟิล์มไม่มีคุณภาพมักมีลักษณะ ดังนี้ สีเข้มมากจนเกินไป หรือสีซีดไม่สม่ำเสมอ มีแสงสะท้อนแปลก ๆ คล้ายโลหะราคาถูก เมื่อติดแล้วทัศนวิสัยไม่ชัด โดยเฉพาะตอนกลางคืน มองจากภายในรถออกไปแล้วรู้สึก “มืดและขุ่น” แทนที่จะใสและเย็น เป็นต้น
6. มีฟองอากาศ หรือรอยต่อหลายจุด
เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ต่อมา แม้ติดตั้งใหม่แต่ฟิล์มไม่มีคุณภาพมักมี ฟองอากาศเล็ก ๆ เกิดขึ้นเป็นจุด ๆ รอยต่อไม่เรียบสนิท หรือขอบฟิล์มหลุดลอกภายในไม่กี่วัน เพราะหากเป็นฟิล์มเกรดดีจะติดแนบเนียน ไม่มีรอยต่อ และดูเรียบร้อย
7. ทดสอบด้วยเครื่องวัดคุณสมบัติฟิล์ม
ร้านมืออาชีพจะมีเครื่องวัดคุณสมบัติ เช่น ค่าการส่องผ่านของแสง (VLT) ค่าการสะท้อนรังสีอินฟราเรด (IR Rejection) และค่าการกันรังสี UV (UV Rejection) หากร้านไม่มีเครื่องวัด หรือไม่ยอมให้วัดก่อนติด แปลว่าอาจซ่อนอะไรบางอย่างไว้
เตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ อันตราย อย่ามองข้าม
แม้การเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์จะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่เจ้าของรถหลายคนทำเป็นเรื่องปกติ แต่หากเลือกฟิล์มไม่มีคุณภาพ ผลกระทบที่ตามมาอาจรุนแรงกว่าที่คิด ทั้งเรื่อง ความปลอดภัย, สุขภาพ, กฎหมาย, และ ค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ฟิล์มที่กันร้อนไม่ได้จริง มองไม่ชัด หรือเสื่อมเร็ว อาจกลายเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุหรือปัญหาในชีวิตประจำวัน
ฟิล์มปลอมบางชนิดยังถูกติดตั้งโดยหลอกว่าเป็นของแท้ ทั้งที่ไม่มีใบรับประกัน ไม่มีรหัสตรวจสอบ และไม่มีคุณสมบัติในการกรอง UV หรือกันร้อนอย่างที่ควรจะเป็น จึงขอเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ให้ผู้ใช้รถทุกคน ตรวจสอบให้รอบคอบ อย่าตัดสินใจเพียงเพราะ “ราคาถูก” แต่ควรพิจารณาถึงมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือ และความคุ้มค่าในระยะยาว เพราะฟิล์มที่ดี คือการปกป้องทั้งรถ ชีวิต และความสบายใจของคุณหากต้องการติดตั้งฟิล์มรถยนต์ หรือปรึกษาเรื่องเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์ ติดต่อ Good Sure Glass เราให้บริการ
ติดตั้ง ฟิล์มอาคาร สำนักงาน ฟิล์มรถยนต์ ซ่อมรอยร้าวกระจกรถยนต์ และจำหน่ายฟิล์มกรองแสงแบรนด์ชั้นนำ ที่สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ โดยทีมช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการอบรมขั้นตอน และเทคนิคพิเศษ มีประสบการณ์กว่า 27 ปี ให้บริการติดตั้งภายในห้องปลอดฝุ่นที่ได้มาตรฐาน พร้อมบริการดูแลหลังการติดตั้ง การันตีด้วยการรับประกันคุณภาพการติดตั้งตลอดอายุการใช้งาน สนใจบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถอ่านได้ที่ ติดฟิล์มรถยนต์ความเข้มเท่าไหร่ดี ?
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตือนภัยติดฟิล์มรถยนต์
หากเกิดอุบัติเหตุจากทัศนวิสัยไม่ดีเพราะฟิล์มเข้มเกิน อาจโดนปฏิเสธความคุ้มครอง นอกจากนี้ฟิล์มที่ไม่มีการแจ้งบริษัทประกันภัยว่าเป็นอุปกรณ์เสริม อาจไม่ได้รับค่าชดเชยหากเสียหาย
นำรถกลับไปที่ร้านเพื่อขอลอกออก หากยังอยู่ในช่วงรับประกัน ตรวจสอบสิทธิ์การคืนเงิน กรณีร้านมีนโยบาย สุดท้ายหากติดจากร้านไม่มีใบเสร็จหรือรับประกัน ควรลอกออกและติดใหม่กับศูนย์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากแบรนด์ฟิล์มแท้
จริงแน่นอน เพราะฟิล์มไม่มีคุณภาพ ไม่สามารถป้องกันรังสี UV และอินฟราเรด (IR) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น รังสี UV ทำลายเซลล์ผิว ก่อให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ, เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังในระยะยาว, ภายในรถร้อนจัด ส่งผลต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และสัตว์เลี้ยง และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น จอวิทยุ กล้องหน้ารถ หรือเบาะหนัง จะเสื่อมไว
ใบรับประกันระบุยี่ห้อ รุ่น และรหัสสินค้า, สติกเกอร์หรือสัญลักษณ์ของแบรนด์บนกระจก, มีเว็บไซต์หรือศูนย์บริการลูกค้าให้ตรวจสอบรหัสฟิล์ม และสามารถเช็กข้อมูลความสามารถในการกันร้อน/UV ได้ชัดเจน